ข่าวประชาสัมพันธ์ของเรา
ประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษี (ภ.ด.ส.1)

ประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษี (ภ.ด.ส.1)

[ 22-05-2563 ] Hits:684

ประกาศ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง  งบการเงินสำหรับปีสิ้นสุด  ณ วันที่  30  กันยายน  2563

ประกาศ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ เรื่อง งบการเงินสำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ …

[ 15-02-2564 ] Hits:701

 ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ

ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ

[ 02-05-2562 ] Hits:740

สำรวจความคิดเห็น

ความพึงพอใจของท่านต่อการให้บริการของ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อยู่ในระดับใด

มาก - 66.7%
ปานกลาง - 33.3%
น้อย - 0%

Total votes: 6
The voting for this poll has ended on: 01 ก.พ. 2017 - 00:00
ร้องเรียน-ร้องทุกข์
  • ไม่มีกระทู้แสดง

ไวรัส RSV รู้ทันป้องกันลูกหลาน

Share

 
               ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนสิงหาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่เด็ก ๆ มักป่วยบ่อย เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงและมักจะรับเชื้อโรคได้ง่ายโดยเฉพาะไวรัส RSV ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดและส่งผลรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบติดเชื้อได้
               องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ จึงอยากฝากเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรค RSV ให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจในอาการของโรค เพื่อจะได้รับการป้องกันโรคนี้ให้ห่างไกลจากลูกหลานของท่านค่ะ
 
               RSV ย่อมาจาก Respiratory Syncytial virus (RSV) เป็นไวรัสที่พบมากและเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่มีอากาศชื้นโดยเฉพาะหน้าฝน สามารถติดต่อกันได้ง่ายๆ เพียงการสัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสสารคัดหลั่งทางตาหรือจมูก และลมหายใจ ดังนั้นในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นหวัดจึงเสี่ยงต่อการรับและแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตัวนี้มากและเด็กเล็กสามารถได้รับเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรกเกิดกันเลยที่เดียว โดยเชื้อไวรัสนี้จะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-6 วัน
 
               ถ้าได้รับไวรัส RSV ทำให้เกิดอาการอย่างไร 

                  RSV ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
       1.ทางเดินหายใจส่วนต้นอักเสบ ทำให้มีอาการคล้ายหวัด มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล คออักเสบ
       2.ทางเดินหายใจส่วนล่างอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ ซึ่งมักเป็นในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ในบางรายมีอาการรุนแรง ไข้สูง หอบเหนื่อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากไวรัส RSV ตั้งแต่ 40 - 90 % รวมไปถึงปอดบวมอาการรุนแรงมากในเด็ก 1 ปี
       3.กลุ่มอาการตายเฉียบพลันในทารก (sudden infant death syndrome,SIDS) พบการตายโดยไม่ทราบสาเหตุแต่สงสัยว่าไวรัส RSV อาจมีส่วนร่วม
 
               อาการของเด็กติดเชื้อไวรัส RSV จะต่างจากการเป็นหวัดธรรมดาอย่างไร
 
           เด็กที่เป็นหวัดธรรมดาจะมีอาการเป็นแบบหวัด มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล กินน้ำ กินนมได้ อาจกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย ซึ่งจะหายได้ 5-7 วัน แต่อาการที่เกิดจากไวรัส RSV คืออาการหอบ เหนื่อย บางคนหอบมากจนเป็นโรคปอดบวม หายใจหอบจนอกบุ๋ม หายใจแรงจนหน้าอกโป่ง หายใจออกลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบ บางรายไอมากจนอาเจียน ซึมลง ตัวเขียว กินข้าว กินน้ำ กินนมไม่ได้ ทางที่ดีถ้าเด็กมีไข้ 3 วัน ควรรีบพาไปพบแพทย์
 
              RSV  รักษาอย่างไร
           
             ไวรัส RSV ยังไม่มีวัคซินที่ใช้ป้องกัน รวมถึงไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเด็กได้รับไวรัสนี้จึงต้องรักษาตามอาการ เช่น ระวังการขาดน้ำเพราะจะยิ่งทำให้เสมหะเหนียวข้น และชื้อลงปลอด อาจต้องใช้ยาพ่นร่วมกับ Oxygen เพื่อช่วยขยายหลอดลม  รับประทานยาลดไข้ตามอาการทุก 4-6 ชั่วโมงพร้อมกับเช็ดตัวลดไข้ นอนพักผ่อนเยอะ ๆ ร่างกายก็จะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ใช้เวลาประมาณ 7-15 วัน จึงจะหาย แต่หลังจากหายแล้ว หลอดลมและถุงลมฝอยของเด็กจะมีอาการอักเสบได้ง่ายเมื่อติดเชื้อครั้งไหม่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเป็นพิเศษทั้งเรื่องอาหารและการออกกำลังกายในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
 
            แนวทางป้องกัน

            วิธีการป้องกันคือการรักษาความสะอาด คนที่ใกล้ชิดเด็กเล็กควรล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคนป่วย
             1.ล้างมือให้เด็กบ่อย ๆ รวมถึงคนรอบข้างด้วยก็จำเป็นต้องล้างมือบ่อย ๆเช่นกัน
             2.เมื่อมีเด็กป่วย หากเป็นไปได้ให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน แต่หากไม่สามารถรับกลับบ้านได้ ให้แยกเด็ก แยกเครื่องใช้ของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายจากเชื้อโรค
 
 
 
******************ด้วยความห่วงใย  จากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ******************